วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554 พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันรายการศึกวันทรงชัย ซึ่งจัดขึ้น ณ เวทีมวยราชดำเนิน โดยเขาได้พบกับคู่ชกอย่างดัง ส.เพลินจิต ในพิกัด 108 ปอนด์ ที่ซึ่งทั้งคู่ไม่เคยพบกันมาก่อน[7]

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555 พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันรายการศึกวันทรงชัย ซึ่งจัดขึ้น ณ เวทีมวยราชดำเนิน โดยได้พบกับคู่ชกอย่างเมธี เกียรติประทุม[4] วันที่ 26 มิถุนายนของปีเดียวกันนี้ พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันคู่รองของรายการศึกวันทรงชัย ซึ่งจัดขึ้น ณ เวทีมวยลุมพินี โดยได้พบกับคู่ชกอย่างป้อมปืน เกียรติช่องเขา[8] และวันที่ 11 ตุลาคม พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันรายการศึกวันทรงชัย ที่เวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งเขาได้พบกับคู่ชกอย่างเด่นสยาม เอกบางไทร จากการแข่งขันในครั้งนี้ พระจันทร์ฉายเป็นฝ่ายต่อน้ำหนักให้ครึ่งปอนด์[9] จากนั้น ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันคู่เอกของรายการศึกเพชรสุภาพรรณ ที่เวทีมวยลุมพินี ซึ่งเป็นการชิงแชมป์ 112 ปอนด์ของเวทีมวยราชดำเนิน โดยได้พบกับคู่ชกอย่างแสงมณี ส.เทียนโพธิ์[10][11][12] จากการแข่งขันครั้งดังกล่าว พระจันทร์ฉายเป็นฝ่ายแพ้คะแนน[2][13] และในวันที่ 24 ธันวาคม พระจันทร์ฉายเข้าแข่งขันรายการศึกวันสถาปนา 67 ปี เวทีราชดำเนินในรุ่น 115 ปอนด์ ซึ่งเขาได้พบกับคู่ชกอย่างลำน้ำพอง หนุ่มยีนส์ตะวันนา[14][15] ในการแข่งขันมวยไทยคู่เปิดของรายการ[16] ที่ซึ่งพระจันทร์ฉายเป็นฝ่ายชนะคะแนน[17]

มวยสากลอาชีพ

พระจันทร์ฉายหันมาชกมวยสากลอาชีพในปี พ.ศ. 2563 โดยขึ้นชกเป็นผู้ท้าชิงแชมเปี้ยนรุ่นเฟเธอร์เวท ของ WBA Asia พบกับ อานนท์ อยู่ปรางค์ เจ้าของตำแหน่ง ที่โรงละครเดอะบาซาร์ เธียเตอร์ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ผลการชกปรากฏว่า พระจันทร์ฉายชนะคะแนน ได้ครองตำแหน่งแชมป์ในรุ่นดังกล่าวในการชกมวยสากลอาชีพครั้งแรก